True Voice พาคุณทำความรู้จักเบื้องหลังความสำเร็จการพัฒนา Voicebot ระดับ Enterprise ด้วยบริการคลาวด์จาก True IDC
26 ม.ค. 2565 //= substr($strYear,2,2)?>
ไม่ว่าจะเป็นมะลิ (Mari) บริการเสียงสั่งได้รายแรกในไทยจากทรู มะนาว เอไอ (Manow AI) จากเครือธนาคารกรุงศรีฯ และยิ้มยิ้มจากสายการบินไทยสมายล์ – หลายท่านคงเคยมีประสบการณ์ได้พูดคุยกับ Voicebot เหล่านี้มาบ้างแล้ว บทความนี้ คุณเกียรติศักดิ์ ศรีมาดี กรรมการผู้จัดการของ True Voice บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนา Voicebot ดังกล่าว จะออกมาเปิดเผยเรื่องราวแนวทางการพัฒนา Voicebot ในไทย ซึ่งมีความแม่นยำ (Accuracy) จากการใช้งานจริงสูงกว่า 85% รวมถึงแนวโน้มของเทคโนโลยี Speech Recognition ซึ่งเสริมทัพด้วยระบบ Cloud หลังบ้านที่แข็งแรง
Testimonial_True_Voice_TTT_logo.jpg)
True Voice คือใคร
True Voice เป็นบริษัทในกลุ่ม True Corporation ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 ด้วยแนวคิดที่ต้องการดึงความสามารถของเทคโนโลยี Speech Recognition AI มาประยุกต์สร้าง Virtual Agent หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Voicebot และ Chatbot เพื่อยกระดับคุณภาพงานบริการและเสริมศักยภาพการทำงานของระบบ Contact Center ให้แก่ลูกค้าระดับองค์กรที่ต้องการตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่เน้นเรื่องความรวดเร็วในการให้บริการและความสม่ำเสมอของคุณภาพการบริการ
True Voice เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญและเป็นบริษัทรายแรกของไทยด้านการทำโซลูชั่นการให้บริการ AI Virtual Agent ด้วยเทคโนโลยี Speech Recognition ภาษาไทยในในเชิงพาณิชย์ มีจุดแข็งที่ระบบประมวลผลสามารถเข้าใจภาษาธรรมชาติของมนุษย์ (Natural Language Understanding) ได้อย่างแม่นยำ โดยได้รับความไว้วางใจการใช้บริการจากกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ เช่น บริษัทในเครือ ทรู คอร์ปอเรชั่น, เครือ CP, เครือธนาคารกรุงศรีฯ, HomePro, SCG HOME และองค์กรอื่นๆ ในหลากหลายกลุ่มธุรกิจอีกมากมาย
Testimonial_True_Voice_TTT.jpg)
พลิกโฉม Contact Center จาก IVR แบบเดิม สู่การพัฒนา AI ให้เป็น Virtual Agent ที่สมบูรณ์แบบ
ในสมัยก่อนนั้น Contact Center นิยมใช้ระบบเสียงตอบรับอัตโนมัติ (IVR) หรือที่รู้จักกันว่าเมนูกดปุ่มในการจำแนกลูกค้าให้ไปสู่เจ้าหน้าที่ปลายทาง แต่บริการดังกล่าวทำให้ลูกค้าต้องวนอยู่ในระบบ IVR หลายนาทีและรอสายอีกนานกว่าจะได้คุยกับพนักงานจริงๆ เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากโดยเฉพาะความคาดหวังต่อความเร็วของการบริการ ลูกค้าต้องการคำตอบหรือการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วทันที อีกทั้งยังต้องการบริการประเภท Self-service ที่สามารถดำเนินการง่ายๆ ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพนักงาน เช่น การสอบถามยอดค่าใช้จ่าย การเปลี่ยนแปลงโปรโมชัน สอบถามข้อมูลทั่วไป เป็นต้น ระบบ IVR จึงไม่สามารถตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าได้อีกต่อไป
Voicebot ที่สามารถเข้าใจภาษาพูดและตอบสนองได้อย่างรวดเร็วจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทในบริการ Contact Center มากขึ้น Voicebot นอกจากจะช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องรอสายแล้ว ยังสามารถตอบคำถามและให้บริการเบื้องต้น เช่น การสอบถามยอดค่าใช้จ่าย โปรโมชัน เบอร์ติดต่อสำนักงานสาขา ฯลฯ ซึ่งช่วยลดภาระของพนักงาน Contact Center ได้อย่างมาก พนักงานก็จะมีเวลาไปทำงานที่มีความซับซ้อน ต้องใช้ความคิดวิเคราะห์ ต้องใช้ทักษะมนุษยสัมพันธ์ หรือให้บริการกลุ่ม VIP ได้อย่างเต็มที่ ทั้งหมดนี้จะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการอบรมพนักงาน ช่วยให้พนักงานได้ทำงานที่มีคุณค่ามากขึ้น และช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากรเนื่องจากสายงาน Contact Center เป็นกลุ่มมีอัตรา turnover ค่อนข้างสูง
"พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก จากการติดต่อที่สาขา ไปสู่ระบบ IVR, Mobile Application, Social media, Chatbot จนมาถึง Voicebot ในปัจจุบันมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี Speech Recognition มากขึ้น ทำให้ Voicebot สามารถเข้าใจคำพูดของมนุษย์ได้อย่างแม่นยำและตอบโต้ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งช่วยลดภาระของพนักงาน Contact Center ได้ 20 - 40% ทั้งยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ขององค์กรให้มีความทันสมัยอีกด้วย" -- คุณเกียรติศักดิ์ ศรีมาดี กรรมการผู้จัดการของ True Voice กล่าว
บริการ Voicebot ภาษาไทยที่มีความแม่นยำสูง
True Voice เป็นผู้ให้บริการ AI Virtual Agent ในรูป Voicebot สำหรับ Contact Center ซึ่งมีการใช้งานจริงแล้วในธุรกิจชั้นนำของไทย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจธนาคารและไฟแนนซ์ ธุรกิจประกันภัย และธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เป็นต้น ทั้งยังสามารถปรับฟังก์ชันให้เหมาะสมกับธุรกิจประเภทต่างๆ บอทสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ รวมถึงลดภาระของพนักงาน Contact Center และสร้างความพึงพอใจในการใช้บริการให้แก่ลูกค้าอีกด้วย
Virtual Agent ของ True Voice ประกอบด้วย 2 เทคโนโลยีหลัก คือ Speech Recognition ทำหน้าที่แปลงเสียงพูดเป็นข้อความตัวอักษร โดยเรามี engine ให้เลือกใช้หลากหลายตามความต้องการลูกค้า และเนื่องจาก True Voice มีประสบการณ์มากกว่า 7 ปีในธุรกิจนี้จึงสามารถปรับ engine ให้มีความแม่นยำสูงสุดในภาษาไทยบนแต่ละ industry domain อีกเทคโนโลยีสำคัญคือ Natural Language Understanding หรือ NLU ที่พัฒนาโดย True Voice เองมีความสามารถในการทำความเข้าใจภาษาพูดและตีความเป็น intent ได้ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าต้องการขอเลื่อนนัด ก็สามารถพูดด้วยประโยคได้หลากหลาย เช่น “ให้ช่างเข้ามาอาทิตย์หน้าได้มั้ย”, “เย็นนี้ไม่ว่างแล้วครับ” หรือประโยคอื่นๆ ที่สื่อความหมายเดียวกันบอทก็ยังเข้าใจได้ ซึ่งทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวก สามารถใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ command words เลย
Testimonial_True_Voice_TTT_Office.jpg)
AI Virtual Agent ในปัจจุบันถูกนำไปใช้ใน 2 รูปแบบหลัก ดังนี้
1. Inbound voicebot – บริการรับสายโทรเข้าสำหรับ Contact Center บอทสามารถจำแนกเรื่องที่ต้องการรับบริการและส่งต่อไปยังพนักงานได้ถูกต้อง และยังสามารถทำงานร่วมกับระบบหลังบ้านขององค์กรเพื่อเชื่อมข้อมูลประกอบการให้บริการเชิงลึกได้ เช่น การสอบถามยอดค่าใช้จ่าย โปรโมชัน การอายัติบัตร การเพิ่มวงเงิน การนัดหมาย การเช็กเที่ยวบิน หรือการสอบถามเบอร์ติดต่อสาขา เป็นต้น
2. Outbound voicebot – บริการโทรออก เช่น โรงพยาบาลสามารถใช้ AI Virtual Agent เพื่อโทรยืนยันนัดตรวจสุขภาพหรือนัดหมายผู้ป่วย บริษัทขนส่งสามารถใช้โทรออกยืนยันนัดหมายการจัดส่งสินค้า หรืออาจนำไปประยุกต์ใช้ในการโทรออกเพื่อสำรวจความพึงพอใจต่อการใช้บริการ เป็นต้น
นอกจากนั้นยังสามารถต่อยอดการให้บริการในรูปแบบ chatbot ได้อีกด้วย ทำให้ลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาไม่ว่าจากช่องทาง voice หรือ chat ก็จะได้รับบริการบนคุณภาพเดียวกัน การเทรนบอทครั้งเดียวก็สามารถตอบได้ทุกช่องทาง
"True Voice ช่วยพัฒนา AI Virtual Agent ให้กับลูกค้าแต่ละรายเป็นการเฉพาะ ซึ่ง AI Virtual Agent แต่ละรายก็จะมีคาแรกเตอร์แตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่มธุรกิจตามภาพลักษณ์ขององค์กรนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น 'มะลิ' ของ True, 'มะนาว' ของเครือธนาคารกรุงศรีฯ หรือ 'ยิ้มยิ้ม' ของสายการบินไทยสมายล์ โดยแต่ละ AI Virtual Agent จะมีความรอบรู้ในธุรกิจของตนเอง ทำให้สามารถการันตีความแม่นยำในการเข้าใจคำพูดและโต้ตอบได้ถูกต้องสูงถึง 85% ขึ้นไป และแม้ว่าในปัจจุบัน True Voice จะเป็นผู้นำระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยบนระบบโทรศัพท์แต่เราจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ ในปัจจุบันหลายๆ คนเริ่มจะคุ้นชินกับการสั่งงานด้วยเสียงผ่านอุปกรณ์ IoT, smart devices บ้างแล้ว ซึ่ง True Voice เรามองเห็นถึง trend การใช้ voice ที่จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ เราเชื่อว่า voice interaction จะกลายเป็น new normal ในอนาคตอันใกล้และ voice จะเข้ามาแทนที่การกดปุ่มหรือการพิมพ์ นั่นคือเราจะสามารถสั่งงานและพูดคุยกับ applications, devices หรือ robots ด้วยเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติและได้รับบริการที่รวดเร็วกว่าเคย” – คุณเกียรติศักดิ์กล่าว
สนับสนุนระบบ Cloud ด้วยบริการและทีมผู้เชี่ยวชาญจาก True IDC
หนึ่งในเทคโนโลยีเบื้องหลังการพัฒนา AI Virtual Agent ของ True Voice คือ Cloud services โดย True Voice เลือกใช้บริการผ่าน True IDC ซึ่งมีความพร้อมในการให้บริการ (Availability) สูง และช่วยให้สามารถขึ้นระบบได้อย่างรวดเร็ว อันเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างประสบการณ์แสนยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ True IDC ยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญคนไทยที่สามารถเข้ามาช่วยเหลือและให้การสนับสนุนได้ทันทีเมื่อมีปัญหา ช่วยให้การทำงานของ AI Virtual Agent เป็นไปอย่างราบรื่น
"True IDC มีความพร้อมในการให้บริการ Cloud Services ด้วยทีมงาน local ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญช่วยตอบคำถามและแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญคือมีแพ็กเกจการใช้งานที่คุ้มค่า ช่วยให้ True Voice สามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการได้เป็นอย่างดี" – คุณเกียรติศักดิ์กล่าวปิดท้าย
