True IDC ต่อยอดกลยุทธ์ Multi-Cloud ให้บริการ Huawei Cloud ในประเทศ

08 เม.ย. 2563

True IDC ผู้นำการให้บริการ Data Center และระบบ Cloud ในประเทศไทย เปิดให้บริการ Huawei Cloud ในประเทศ พร้อมชูโซลูชันเด่นด้าน Containerized Solutions, AI และ 5G จาก Huawei Cloud มาประยุกต์ให้บริการในไทยอย่างเต็มตัว ตอกย้ำความเป็นผู้นำบริการ Multi-Cloud อันดับหนึ่งของไทย

True IDC เล็งเห็นถึงความสำคัญในการให้บริการ Domestic Public Cloud ในไทย

True IDC ให้ความสำคัญกับการให้บริการ Domestic Public Cloud ซึ่งช่วยให้เหล่าองค์กรและธุรกิจไทยตั้งแต่ระดับ SME ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่สามารถใช้บริการ Cloud ได้อย่างรวดเร็วและมีความหน่วง (Latency) ต่ำด้วยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายในประเทศ อีกทั้งยังมีการจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดในประเทศไทย ทำให้องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือข้อบังคับที่จำกัดการเก็บข้อมูลภายนอกประเทศสามารถเลือกใช้ Huawei Cloud ได้ทันที

Huawei Cloud นอกจากจะมาพร้อมกับบริการพื้นฐานทั้ง IaaS, PaaS และ SaaS อย่างครบครัน เทียบเท่ากับผู้ให้บริการ Public Cloud รายอื่นที่ให้บริการในไทยแล้ว ยังให้บริการเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ตอบรับความต้องการขององค์กรในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นโซลูชันสำหรับ Containerized Apps, ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) อันล้ำสมัย และเทคโนโลยี 5G ที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ในขณะนี้ ที่สำคัญคือ Huawei Cloud ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลด้านความมั่นคงปลอดภัยมากมาย เช่น ISO 27001:2013, ISO 27017:2015, ISO 27018:2014, PCI DSS, ISO 22301:2012, CSA STAR (Gold) รวมไปถึง ISO 27701:2019 ซึ่งเป็นมาตรฐานด้าน Privacy Information Management System (PIMS) ใหม่ล่าสุด สำหรับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องตาม GDPR อีกด้วย ช่วยให้องค์กรและธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมั่นใจ


แนะนำ 3 โซลูชันเด่นด้าน Containerized Solutions, AI และ 5G จาก Huawei Cloud

Huawei Cloud เป็นหนึ่งใน Public Cloud ยอดนิยมที่ถูกนำไปใช้ขับเคลื่อนโครงการสำคัญของภาครัฐและเอกชนในประเทศจีน ซึ่งประสบความสำเร็จในการพลิกโฉมตัวเมืองและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไปสู่การเป็น Smart City และ Smart Factory เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังโครงการเหล่านี้ต่างถูกนำเข้ามาให้บริการในประเทศไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจาก Elastic Cloud Server (ECS), Relational Database Service (RDS), Virtual Private Cloud (VPC) และอีกมากว่า 200 Services ทยอยนำมาให้บริการในประเทศไทย โดยมีตัวอย่าง Innovation Technology ที่น่าสนใจ ดังนี้

Containerized Solutions สำหรับ Multi-Cloud

Huawei เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักให้แก่มูลนิธิ Cloud Native Compute Foundation (CNCF) จึงมีโซลูชันที่ช่วยสนับสนุนเทคโนโลยี Container ที่ถูกออกแบบตามแนวทางของ CNCF ให้บริการมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Cloud Container Engine (CCE) ซึ่งเป็นบริการ Container as a Services โดยรองรับ Kubernetes Applications and tools แล้ว Huawei ยังต่อยอดด้วยบริการ Cloud Container Platform (MCP) ที่ช่วยให้สามารถบริหารจัดการ Kubernetes Clusters ระหว่างภูมิภาคหรือระหว่างผู้ให้บริการระบบ Cloud หลายๆ รายพร้อมกันได้ รวมไปถึงสามารถโยกย้าย Kubernetes จากผู้ให้บริการระบบ Cloud หนึ่งไปยังผู้ให้บริการอีกรายหนึ่งได้ เพิ่มอิสระในการใช้ Kubernetes แบบ Multi-Cloud มากขึ้น

Artificial Intelligence

Huawei Cloud ให้บริการ AI ทั้งในส่วนของ Core AI และที่เกี่ยวข้องกับ Data Analytics เช่น AI Data Inference, AI Data Training, Image Processing, Knowledge Computing และ Autonomous Driving Training มีจุดเด่นที่เป็น AI-Enabled Infrastructure กล่าวคือ มีสถาปัตยกรรม CPU ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยเฉพาะ เรียกว่า “Ascend” โดยสามารถประมวลผลได้เร็วกว่า x86 CPU หลายเท่า การันตีด้วยผลทดสอบจาก Stanford DAWNBench ซึ่งเป็น End-to-end Deep Learning Training & Inference Benchmark เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ เกือบทั้งหมดในท้องตลาด นอกจากนี้ บริการ AI ของ Huawei Cloud ยังเป็นที่ยอมรับว่าสามารถทำงานบนภาษาไทยได้ดีกว่าผู้ให้บริการรายอื่น ๆ

เทคโนโลยี AI ของ Huawei Cloud อยู่เบื้องหลังของโครงการสำคัญของจีนมากมาย หนึ่งในนั้นที่มีชื่อเสียง คือ โครงการ “นครอัจฉริยะ (Smart City)” ของเมืองเซินเจิ้น ซึ่งถูกวางยุทธศาสตร์ให้เป็นศูนย์นวัตกรรมและเขตเศรษฐกิจใหม่ของจีนในอนาคต

5G และ Distributed Cloud

การมาถึงของ 5G ช่วยให้แนวคิดการกระจายระบบ Cloud ให้ไปใกล้ผู้ใช้งานมากขึ้นหรือ Distributed Cloud เป็นจริงขึ้นมา ส่งผลให้สามารถประมวลผลระบบ AI, Internet of Things (IoT), Data Analytics และอื่น ๆ ที่ Edge Cloud ได้เลยโดยที่ไม่ต้องส่งข้อมูลกลับมาที่ระบบ Cloud หลัก ช่วยลดความหน่วง (Latency) ซึ่งเป็นอุปสรรคหลักของแอปพลิเคชันที่ต้องมีการประมวลผลหรือปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้แบบเรียลไทม์ เช่น ระบบขับขี่รถยนต์อัตโนมัติ หรือระบบเกม เป็นต้น แน่นอนว่า Huawei ในฐานะผู้ให้บริการเครือข่าย 5G และระบบ Cloud ชั้นนำของโลกย่อมมีโซลูชันสำหรับรองรับแนวคิดเรื่อง Distributed Cloud ภายใต้ยุค 5G สำหรับทั้ง Service Provider และลูกค้าที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน

เริ่มใช้ Huawei Cloud ผ่านผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองอย่าง True IDC

True IDC จับมือเป็นพันธมิตรกับ Huawei เพื่อให้บริการ Huawei Cloud ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2019 ซึ่ง True IDC และ Huawei ได้ผนึกกำลังเรื่อยมาเพื่อยกระดับบริการ Public Cloud ให้พร้อมตอบสนองต่อความต้องการขององค์กรและธุรกิจยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโซลูชันสำหรับ Containerized Apps, ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยี 5G ด้วยจุดเด่นที่เป็น Public Cloud ในประเทศ ทำให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับลูกค้าที่ต้องการพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีความหน่วง (Latency) ต่ำ หรือต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับที่จำกัดการใช้ระบบ Cloud ภายนอกประเทศ

True IDC มีทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและให้บริการ Huawei Cloud แบบครบวงจร ตั้งแต่การวิเคราะห์ความต้องการเชิงธุรกิจ, การวางแผนเริ่มต้นใช้ระบบ Cloud, การออกแบบและติดตั้ง ไปจนถึงการดูแลหลังการขาย การันตีด้วยใบรับรอง HCPN (Huawei Cloud Partner Network) Consulting Partner ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ Carrier Partner, Service Partner และ Solution Partner ทำให้มั่นใจว่าพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการโซลูชันด้าน Internet of Things และ 5G

“Huawei Cloud เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เข้ามาเสริมกลยุทธ์ Multi-Cloud ของ True IDC ด้วยจุดเด่นด้านบริการระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้เราเตรียมต่อยอดบริการนี้ทั้งในเรื่องการนำ AI มาวิเคราะห์อาการผู้ป่วย, โทรเวชกรรม (Telemedicine) และการผ่าตัดจากระยะไกล (Remote Surgery) เพื่อยกระดับบริการด้านสาธารณสุขของไทยให้ก้าวไปอีกขั้น” — คุณธนรรถ สังข์เกษม ประธานกรรมการผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของ True IDC กล่าวปิดท้าย

ผู้ที่สนใจบริการ Huawei Cloud จาก True IDC สามารถติดต่อเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ [email protected] หรือ โทร 02-494-8300


ขอขอบคุณ: Techtalkthai