5 เหตุผล ทำไม Startup และธุรกิจไทยควรใช้ True IDC Cloud - Public Cloud ในประเทศ

27 ก.ย. 2565

ปัจจุบันมีบริการ Public Cloud ให้เลือกใช้มากมาย แต่ Public Cloud เหล่านี้มักให้บริการอยู่ภายนอกประเทศ ทำให้มี Latency สูง เกิดค่าใช้จ่ายในส่วน Data Transfer รวมไปถึงปัญหาเรื่องการส่งข้อมูลไปนอกประเทศของหลาย ๆ ธุรกิจที่มีกฎหมายกำกับดูแล ในบทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งบริการ Public Cloud ที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้น อย่าง True IDC Cloud และ 5 เหตุผลสำคัญว่าทำไม Startup และธุรกิจไทยถึงควรใช้ True IDC Cloud ที่เป็น Public Cloud ในประเทศ

True IDC Cloud – Public Cloud ในประเทศมาตรฐานระดับสากล

True IDC Cloud เป็น Public Cloud ในประเทศ ที่มี Multi-Platform ให้เลือกใช้งานตามความต้องการและความเหมาะสมของธุรกิจ และ True IDC ยังมี Data Center ของตนเอง ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลทั้งด้านการออกแบบ Data Center ในระดับ Tier III จากสถาบัน Uptime และด้านความมั่นคงปลอดภัย ISO/IEC 27001:2013 มาพร้อมกับระบบบริหารจัดการ Cloud ด้วยตนเองซึ่งเพิ่มความยืดหยุ่นและความคล่องตัวขึ้นอีกระดับ มีพื้นที่รองรับได้กว่า 5,000 VMs และไม่มีข้อจำกัดเรื่องทรัพยากร เชื่อมต่อกันผ่านโครงข่าย Multi-site Network Fabric ทำให้สะดวกต่อการทำ Backup & Recovery และ Disaster Recovery สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเว็บไซต์ อีเมล วิดีโอสตรีมมิ่ง หรือการพัฒนาแอปพลิเคชันสมัยใหม่ (Modern Apps) ตอบโจทย์การใช้งานให้กับหลาย ๆ ธุรกิจ อาทิ โทรคมนาคม การธนาคาร การเงิน และประกันภัย เป็นต้น

True IDC Cloud เป็น Public Cloud ในประเทศที่ออกแบบมาตอบโจทย์ Startup และธุรกิจไทยโดยเฉพาะ เพราะมีจุดได้เปรียบในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในประเทศค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับ Public Cloud ต่างประเทศและ Local Cloud รายอื่น ๆ ในตลาด และนี่คือ 5 เหตุผลหลักที่ควรใช้ True IDC Cloud

1. ลดค่าใช้จ่าย Data transfer และตัดปัญหาเรื่องการส่งข้อมูลออกนอกประเทศ

เทรนด์ในปัจจุบันมุ่งเน้นไปทางเทคโนโลยี 5G และ IoT ซึ่งก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น  Smart Home, Smart Farming หรือ Smart City รวมไปถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันก็เริ่มเดินเข้าสู่การเป็น Modern Apps ที่ใช้สถาปัตยกรรมแบบ Microservices สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนและประมวลผลข้อมูลปริมาณมหาศาล การใช้ Public Cloud นอกประเทศนอกจากจะมี Latency ที่สูงกว่าแล้ว ยังทำให้ธุรกิจต้องรับภาระค่าใช้จ่ายด้าน Data Transfer จำนวนมากอีกด้วย
True IDC Cloud ทำให้มั่นใจว่าธุรกิจในประเทศไทยสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Cloud ได้อย่างรวดเร็ว Latency ต่ำ ตัดปัญหาเรื่องกฎหมายหรือข้อบังคับให้ต้องเก็บข้อมูลภายในประเทศสำหรับบางธุรกิจ และไม่ต้องกังวลเรื่องค่าบริการที่ผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอีกด้วย

2. ฟีเจอร์พื้นฐานเทียบเท่า Public Cloud ระดับโลก พร้อมด้วยฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย รวม Professional Services และ Managed Services ที่ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญคนไทย

True IDC ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลทั้ง CSA STAR, Uptime Tier III และ ISO/IEC 27001:2013 ถูกออกแบบให้มีสถาปัตยกรรมแบบ Full Redundancy ในทุกฟังก์ชัน ครอบคลุมทั้ง Services, Compute, Storage, Management, Control และ Network ส่งผลให้มี Availability ถึงระดับ 99.95%
บริการ Infrastructure as a Service ของ True IDC Cloud มีบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ทั้ง VM & Servers, Storages, Relational Databases (MySQL, ProsgreSQL), Web Application Firewall, Autoscaling และ Backup & Recovery
Autoscaling เป็นหนึ่งในบริการเด่นของ True IDC Cloud เมื่อเทียบกับคู่แข่งในประเทศ ช่วยให้ลูกค้าสามารถขยายระบบได้โดยอัตโนมัติและไม่จำเป็นต้อง Restart Service ใหม่ รวมไปถึงเมื่อพบ Fail State ก็สามารถย้ายโหลดไปยัง VM ใหม่ให้โดยอัตโนมัติ ทั้งยังรองรับการขยายระบบ Container ในระดับ Microservices ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ True IDC ยังให้บริการ Professional Services สำหรับให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ติดตั้ง ไปจนถึงการย้ายจากระบบเดิมสู่ True IDC Cloud (Migration) ตลอดจนบริการ Managed Services สำหรับคอยดูแลการใช้ Public Cloud หลังการขาย ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญคนไทยที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า ใกล้ชิดกว่า ในราคาย่อมเยาว์กว่า Public Cloud นอกประเทศ

3. วางโครงข่ายแบบ Multi-site Network Fabric ลด Latency ในการเข้าถึงบริการ Cloud

Data Center ของ True IDC มีการวางระบบโครงข่ายแบบ Software-defined Network ที่สนับสนุนโดยเทคโนโลยี VXLAN ช่วยให้สามารถขยายการเชื่อมต่อในระดับ Layer 2 ทั้งภายในและระหว่าง Data Center ได้อย่างอิสระ กลายเป็น Network Fabric เดียวกันหรือที่เรียกว่า Multi-site Network Fabric ซึ่งนอกจากจะช่วยลด Latency ระหว่าง Data Center ให้เหลือเพียง 1 – 2 มิลลิวินาทีแล้ว ยังช่วยเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดให้ผู้ให้บริการ True IDC Cloud อีกด้วย
มากไปกว่านั้น True IDC ยังมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ได้มาตรฐานและรวดเร็วอันดับต้น ๆ ของประเทศ เชื่อมต่อโดยตรงกับ Domestic และ International Gateway (IG) และ Internet Exchange (IX)  รวมไปถึงมีบริการ True IDC Connect ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเชื่อมโยงระบบของตนเข้า Public Cloud ชั้นนำทั่วโลก ทั้ง Alibaba Cloud, Amazon Web Services, Google Cloud, Huawei Cloud, IBM, Microsoft Azure, Oracle, Salesforce, SAP และอื่น ๆ ได้โดยตรง ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการ Hybrid Multi-cloud สำหรับทำ AI/ML หรือ Real-time analytics

4. ตอบโจทย์ความต้องการของ Startup และธุรกิจไทยโดยเฉพาะ

ปัจจุบันนี้ True IDC Cloud นอกจากจะมีบริการพื้นฐานอย่าง VM, Storage, Database แล้ว ยังมีบริการทางด้าน Container as a Service (CaaS) ภายใต้ชื่อ True IDC Kubernetes Service (TKS) ที่ถูกออกแบบมาสำหรับกลุ่มนักพัฒนาและบริษัท Startup อีกด้วย ตอบโจทย์ความต้องการในการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบ Cloud Native ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยน อัปเดตเวอร์ชันหรือคอนเทนต์บ่อย ในขณะที่ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานเพื่อบริหารจัดการประสิทธิภาพและควบคุมต้นทุนได้อย่างคล่องตัว ลดภาระในการจัดการ Infrastructure ด้วยตนเอง นอกจากนี้ ยังสามารถผสานแนวทางการพัฒนาแอปพลิเคชัน DevOps และ CI/CD Pipeline เข้าด้วยกันกับ True IDC Kubernetes Service เพื่อรองรับการทำ Autoscaling สำหรับการขยายระบบอย่างเร่งด่วนในอนาคตได้อีกด้วย
ด้วยการเป็น Public Cloud ในประเทศ True IDC Cloud จึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในการให้บริการ Video Conference, Video Streaming, Content Delivery ในประเทศ หรือบริการ IoT ที่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนและประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์อย่าง เช่น Smart Home และ Smart Farming เนื่องจากมี Latency ต่ำและไม่ต้องเสียค่าบริการในส่วนของ Data Transfer เหมือน Public Cloud นอกประเทศ

5. ขยายบริการสู่ประเทศในอาเซียนและเอเชียแปซิปิกได้ง่าย

ในฐานะผู้ให้บริการระบบ Cloud และ Data Center ชั้นนำของประเทศ True IDC ได้สามารถขยายบริการไปสู่ประเทศอาเซียนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะได้ขยาย Data Center ไปสู่ประเทศเหล่านี้แล้วที่เมียนมาร์ มากกว่านั้นยังเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการในมาเลเซีย สิงคโปร์ และจีน เพื่อให้สามารถส่งมอบคอนเทนต์ไปประเทศเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงตอนนี้ True IDC มีแผนขยาย AZ (Availability Zone) อีกหลายประเทศในอนาคตอันใกล้ เพื่อช่วยให้ลูกค้าที่อยู่ในภูมิภาคอื่นสามารถใช้งาน True IDC Cloud ได้ดีมากขึ้น ทำให้มี Latency ต่ำกว่าผู้ให้บริการในประเทศรายอื่นๆ ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจกลุ่มที่ให้บริการ Video Streaming แบบเรียลไทม์ และ Content Delivery ที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง


ผู้ที่สนใจใช้บริการ Public Cloud ในประเทศของ True IDC สามารถติดต่อเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.trueidc.com/th/contact หรือโทร 02-494-8300

ขอขอบคุณ TechTalkThai